การดูแลรักษาโรคเบาหวาน

… การป่วยเป็นโรคเบาหวาน ก็ถือเป็นโรคที่เกิดจากการทางทอดผ่านทางพันธุกรรม แต่มันก็ไม่ใช่เต็มร้อยไปซะทุกอย่างเพราะยังคงมีพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เราเกิดเป็นโรคเบาหวานได้อีกด้วย เช่น การที่เรามีน้ำหนักตัวมากจนเกินไป การไม่ใส่ใจในการออกกำลังกายต่างๆ หรือเป็นคนที่มีโรคประจำตัวและมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดเป็นโรคเบาหวานเช่น ไขมันในเลือดสูง โดยอาการของโรคต่างๆ เหล่านี้ก็มักจะเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดเป็นโรคเบาหวานได้เช่นกัน ในปัจจุบันนี้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานในบ้านเรามีมากขึ้นทุกปี ซึ่งโรคนี้หลายคนอาจจะคิดว่าไม่อันตรายแต่ในความเป็นจริงแล้วโรคนี้อันตรายมากกว่าที่เราคิดไว้อีกด้วย อย่างไรก็ตามอาการของโรคเบาหวานก็เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่ไม่สามารถจะผลิตอินซูลินต่างๆ ได้อย่างไม่เพียงพอ เลยส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเราสูงมากจนเกินไปอย่างเห็นได้ชัด และโรคเบาหวานก็จะเกิดขึ้นจากร่างกายที่ไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้ได้อย่างเหมาะสม โดยปกติแล้วน้ำตาลจะเข้าสู่เซลล์ร่างกายเพื่อที่จะนำไปใช้งานต่างๆ  แต่ถ้าหากเราป่วยเป็นโรคเบาหวาน ร่างกายของเราก็จะไม่สามารถที่จะนำน้ำตาลที่เรามีอยู่ไปใช้งานได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพ เมื่อเราไม่มีการรักษาโรคเบาหวานที่ถูกต้องและถูกวิธี ก็ส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเราสูงขึ้น เลยทำให้ส่งผลนำไปสู่สภาวะโรคแทรกซ้อนต่างๆ ที่เราไม่คาดคิด สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานแล้วสิ่งที่กลัวและกังวลใจเป็นอย่างมากก็คือ โรคเบาหวานเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ซึ่งระบบในร่างกายของเราไม่สามารถที่จะควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย การที่เราป่วยเป็นโรคเบาหวานแล้วจะสามารถที่จะอยู่กับโรคนี้ได้อย่างสงบสุข เราก็จะต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกครั้งอย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอควบคู่กับการเรียนรู้วิธีการดูแลรักษาตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเราก็จะต้องเลือกกินอาหารให้อย่างถูกต้อง เน้นไปที่การกินอาหารเพื่อสุขภาพจะดีเป็นอย่างมาก นอกจากจะสามารถช่วยรักษาโรคเบาหวานต่างๆ ได้เป็นอย่างดีแล้วก็ยังเป็นการดูแลสุขภาพของเราไปในตัวอีกด้วย เพราะว่าการที่เรามีการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดมันก็สามารถที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ ของการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้เป็นอย่างดี เราก็จะต้องมีการวางแผนในการรักษาโรคเบาหวานให้ดีด้วยนะครับ เพื่อที่เราจะได้มีสุขภาพและร่างกายที่แข็งแรง และที่สำคัญในการรักษาโรคเบาหวานก็จะต้องมีการออกกำลังกาย การเลือกใช้ยาที่ถูกต้อง การรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ รับรองเลยถ้าหากเราทำได้ก็จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเราสามารถที่จะอยู่ในระดับปกติได้ เอาเป็นว่าถ้าหากเรารู้ตัวว่ากำลังป่วยเป็นโรคเบาหวานอยู่ก็ควรที่จะต้องมีการควบคุมระดบน้ำตาลด้วย เพื่อที่จะได้ลดความเสี่ยงและการเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ

วิธีการดูแลจะมีอะไรบ้างนั้นเรามาดูกันเลย

1. การรับประทานอาหาร สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานนั้ การเลือกรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคาร์โบไฮเดรต ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากเรารับประทานคาร์โบไฮเดรตมากจนเกินความจำเป็นไปก็ย่อมจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเราสูงขึ้นได้เช่นกัน เนื่องจากคาร์โบไฮเดรตเมื่อใช้งานไม่หมด ก็จะถูกเปลี่ยนสภาพเป็นน้ำตาลนั่นเอง ถึงแม้ว่าคาร์โบไฮเดรตจะมีผลเสียต่อร่างกายเมื่อเรากินไปเยอะ ๆ แต่มันก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่เหมือนกันนะครับเพราะถือเป็นพลังงานหลักที่จะทำให้ร่างกายของเรามีความสมบูรณ์เป็นอย่างมาก การเลือกรับประทานคาร์โบไฮเดรต ก็ควรที่จะต้องเลือกกินกันอย่างเหมาะสมและลงตัวเป็นอย่างมากด้วย เพื่อที่ร่างกายของเราจะได้รับพลังงานจากแป้งที่เพียงพอ แต่ถ้าหากกินเยอะจนเกินไปก็อาจจะทำให้แป้งกลายเป็นน้ำตาลที่เราไม่คาดคิดได้นั่นเอง สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานก็ไม่ควรที่จะงดหรืออดคาร์โบไฮเดรตกันไปนะครับ เพราะยังไงแป้งก็ยังเป็นพลังงานที่สำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมากเลย แต่ทุกวันนี้คาร์โบไฮเดรตก็มีให้เราเลือกกินกันได้อย่างหลากหลายด้วยกัน โดยผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานก็อาจจะหาพวก ข้าวกล้อง ข้าวไรท์เบอรี่ ข้าวซ้อมมือ มากินทดแทนได้เช่นกัน เพราะเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนทำให้ร่างกายของเราได้รับประโยชน์และสารอาหารอย่างครบถ้วนอีกด้วย ดังนั้น การกินแป้งถือว่าไม่ผิดสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน แต่เราก็จะต้องเลือกกินแป้งให้มันได้เหมาะสมและเลือกกินแป้งที่ดีต่อร่างกายของเราด้วย เพราะสุขภาพของผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานนั้นก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
2. การออกกำลังกาย ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สำคัญเป็นอย่างมากเลยนะครับ เพราะการออกกำลังกายเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สุขภาพและร่างกายของเรามีความแข็งแรงเป็นอย่างมากเลย โดยเราก็จะต้องออกกำลังกายกันอย่างสม่ำเสมอกันด้วย และจะต้องออกกำลังกายให้เหมาะสมกับรูปร่างของตัวเอง ไม่ควรที่จะหักโหมมากจนเกินไป ควรที่จะเน้นออกกำลังกายแบบคาดิโอก่อน เพื่อที่จะได้ปรับสภาพให้ร่างกายพร้อมกับการออกกำลังกายขั้นต่อไปนั่นเอง ในส่วนของการออกกำลังกายก็เป็นสิ่งที่สำคัญและสำคัญเป็นอย่างมากทั้งนี้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานก็จะต้องมีการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้งด้วยว่าเราสามารถที่จะออกกำลังกายแบบไหนได้บ้าง เพราะบางทีถ้าเราออกกำลังกายที่ไม่ดีและไม่ถูกต้อง ก็อาจจะส่งผลทำให้เราได้รับบาดเจ็บและร่างกายเกิดบาดแผลได้นั่นเอง การออกกำลังกายสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานก็ถือเป็นสิ่งที่จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษด้วย
3. การใช้ยารักษาโรคเบาหวาน แน่นอนนะครับสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน หลายๆ คนก็อาจจะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ยาในการรับประทาน แต่บางคนนั้นก็อาจจะต้องฉีดยาเข้าสู่กระแสเลือด โดยแนวทางการรักษาของแต่ละคน ก็จะมีความแตกต่างกันออกไปทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมที่แพทย์ได้ทำการวินิจฉัยไปแล้วนะครับว่าร่างกายของเราเหมาะสมแบบไหน ทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็จะจัดสรร ยาให้เราเป็นแบบนั้นนั่นเอง โดย การใช้ยาไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ตามนั้น เราก็จะต้องปฎิบัติอย่างเคร่งครัดและเหมาะสมด้วยนะครับเพื่อที่ร่างกายของเรานั้นจะได้มีความเหมาะสมกันอย่างลงตัว
4. การตรวจเช็คระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ โดยในส่วนนี้มันก็จะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากเลย โดยเราก็จะต้องมีการวางแผนทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเรา สามารถที่จะกลับมาอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติได้นะครับ โดยเราก็จะต้องมีการตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่ร่างกายของเราจะได้มีความแข็งแรงต่อไป ถ้าหากเราไม่มีการตรวจเช็คระดับน้ำตาลในเลือดของตัวเองอย่างเป็นประจำ ก็จะทำให้เราไม่ทราบเลยว่าในตอนนี้ ระดับน้ำตาลของเราเป็นอย่างไรบ้าง ถือเป็นการตรวจเช็คอีกหนึ่งวิธีที่ดี เพราะมันจะทำให้เราได้ทราบผลที่แน่ชัดและสามารถที่จะปฎิบัติตัวเองได้อย่างเหมาะสม โดยการตรวจเช็คเราสามารถที่จะไปหาหมอ เพื่อที่จะให้หมอดูได้เช่นกัน หรืออาจจะซื้อเครื่องตรวจเบาหวานมาใช้ที่บ้านได้นะครับ ซึ่งก็อาจจะต้องมีการจดบันทึกข้อมูลเพื่อที่จะได้ทราบแนวทางการรักษาที่ดีต่อไป

การป่วยเป็นโรคเบาหวาน เราก็ยังสามารถที่จะใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนคนทั่วๆ ไปนะครับแต่การจะอยู่ร่วมด้วยได้นั้น ก็จะต้องมีการดูแลรักษาร่างกายของเราให้ดีด้วย โดยเราก็จะต้องสามารถที่จะรับมือกับโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเครียดต่างๆ นั้น เพราะถ้าหากเราเครียดมากมันก็จะส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเราสูงขึ้นได้เช่นกัน เราจะต้องหาวิธีจำกัดความเครียดเหล่านี้ออกไปให้ได้ โดยเราก็จะต้องพยายามหายใจเข้าออกให้ลึกๆ  หรือหาเวลาว่างไปทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อที่จะลดความเครียดได้ เช่น เข้าวัดทำบุญ ทำงานอดิเรก หรือฟังเพลงต่างๆ ที่เราชื่นชอบ นอกจากนี้เราก็จะต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีพลังงานที่ต่ำ  ไม่ควรที่จะเลือกกินอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวมากจนเกินไป เช่นพวก ไขมันทรานซ์ น้ำตาลและเกลือ เพราะอาหารต่างๆ เหล่านี้ก็ถือเป็นอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพของเรา ควรที่จะเน้นไปทางอาหารที่มีเส้นใยอาหารสูงมาก โดยเป็นพวก ธัญพืชเต็มเมล็ด ผักต่างๆ แต่การเลือกกินผักและผลไม้ ควรที่จะต้องเลือกสิ่งที่ดีด้วยนะครับ เพราะมันจะทำให้เราได้รับสารอาหารกันอย่างเต็มที่ นอกจากนี้สำหรับคนที่ชอบกินน้ำหวานหรือน้ำผลไม้แบบสำเร็จรูป ก็ควรที่จะเปลี่ยนมากินพวกน้ำเปล่าจะดีกว่านะครับ เพราะเป็นน้ำที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกายจริงๆ ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลอีกด้วย เมื่อเรากินข้าวหรือกินอาหารอะไรก็แล้วแต่ในหนึ่งมื้อนั้ควรที่จะต้องมีผักและโปรตีนกันอย่างครบถ้วนและเต็มที่ด้วยนะครับ กินแบบนี้เป็นประจำให้เป็นนิสัยรับรองเลยว่าสุขภาพของเราก็จะแข็งแรงกลับมามีชีวิตชีวากันอย่างแน่นอน ดังนั้นเมื่อเราป่วยเป็นโรคเบาหวานแล้วจะต้องมีการดูแลรักษาร่างกายกันอย่างเต็มที่ด้วยนะครับ ควรที่จะต้องกินยาตามที่แพทย์สั่งกันอย่างเคร่งครัด เมื่อตรวจพบว่าตัวเองมีความผิดปกติทางร่างกายก็ไม่ควรที่จะปล่อยทิ้งไว้นะครับควรที่จะต้องหาหมออย่างเร่งด่วนเพื่อที่จะได้ทำการรักษากันอย่างทันเวลา การที่เราตรวจเช็คระดับน้ำตาลในเลือดอยู่เป็นประจำทุกวันก็จะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะถ้าเรามีการจดบันทึกไว้เป็นอย่างดี ก็จะทำให้แพทย์สามารถที่จะวินิจฉัยโรคต่างๆ ของเราได้อย่างเต็มที่และแม่นยำนั่นเอง เอาเป็นว่าการป่วยเป็นโรคเบาหวานก็ถือเป็นโรคที่น่ากลัวอยู่เหมือนกัน แต่เราก็จะต้องรู้จักดูแลรักษาร่างกายของเราให้มีความแข็งแรงอยู่สม่ำเสมอด้วยนะครับเพื่อที่จะได้มีสุขภาพที่ดีและใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างมีความสุข