ภาชนะบรรจุอาหารแบบไหนปลอดภัยสำหรับเด็กและสตรีมีครรภ์?
ภาชนะบรรจุอาหารที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและสตรีมีครรภ์ หลีกเลี่ยงสาร BPA , Phthalates และ Styrene พร้อมวิธีเลือกภาชนะที่ปลอดภัยที่สุด
กล่องโฟมมีสารสไตรีนที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น เสี่ยงมะเร็ง และระบบประสาท เรียนรู้วิธีหลีกเลี่ยงสารเคมีนี้เพื่อการกินอาหารที่ปลอดภัยขึ้น
กล่องโฟมเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหาร อย่างไรก็ตาม คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า กล่องโฟมมีสารสไตรีน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ? งานวิจัยหลายฉบับชี้ให้เห็นว่า สารสไตรีนสามารถปนเปื้อนในอาหาร เมื่อสัมผัสกับความร้อนและอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง ระบบประสาท และฮอร์โมน ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่า สารสไตรีนในกล่องโฟมอันตรายแค่ไหน? และคุณควรหลีกเลี่ยงอย่างไรเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
กล่องโฟมที่นิยมใช้กันทั่วไปผลิตจาก โพลิสไตรีน (Polystyrene , PS) ซึ่งเป็นพลาสติกชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อนได้ดี น้ำหนักเบา และราคาถูก ทำให้ถูกนำมาใช้แพร่หลายในอุตสาหกรรมอาหาร โดยเฉพาะกล่องโฟมสำหรับบรรจุอาหารร้อนและเย็น
แม้ว่ากล่องโฟมจะสะดวก แต่ความเสี่ยงจากสารเคมีที่ปนเปื้อนในอาหารอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ ซึ่งนำไปสู่คำถามสำคัญว่า สารสไตรีนที่พบในกล่องโฟมอันตรายแค่ไหน?
อ่านเพิ่มเติม : สารเคมีในบรรจุภัณฑ์อาหาร – อะไรบ้างที่ควรระวัง (อธิบายสารเคมีอื่นๆ ที่อาจพบในบรรจุภัณฑ์อาหาร)
สารสไตรีน (Styrene , C8H8) เป็นสารประกอบอินทรีย์ในกลุ่มไฮโดรคาร์บอนอะโรมาติก ถูกใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตพลาสติกประเภท โพลิสไตรีน (Polystyrene , PS) ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญของ กล่องโฟม ขวดพลาสติก และฉนวนกันความร้อน
สารสไตรีนสามารถพบได้ทั้งจากแหล่งธรรมชาติ และแหล่งที่มนุษย์สร้างขึ้น
สารสไตรีนที่อยู่ในพลาสติกอาจ ซึมเข้าสู่อาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสกับ อุณหภูมิสูง , ของเหลวที่มีความเป็นกรดหรือไขมันสูง เด็กและสตรีมีครรภ์ ซึ่งอาจได้รับผลกระทบมากกว่าคนทั่วไป
แนะนำอ่าน : ภาชนะบรรจุอาหารแบบไหนปลอดภัยสำหรับเด็กและสตรีมีครรภ์? (อธิบายทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับกลุ่มเสี่ยง)
งานวิจัยจาก หน่วยงานป้องกันสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ (EPA) ระบุว่า การได้รับสารสไตรีนในปริมาณสูงเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง โดยมีอาการดังต่อไปนี้
องค์กรอนามัยโลก (WHO) และ International Agency for Research on Cancer (IARC) ได้จัดให้ สารสไตรีนเป็นสารก่อมะเร็งกลุ่ม 2B (Group 2B Carcinogen) ซึ่งหมายความว่า “อาจเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์” โดยมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างการได้รับสารนี้กับความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด เช่น
สารสไตรีนจัดเป็น “สารรบกวนฮอร์โมน (Endocrine Disruptor)” ซึ่งหมายความว่ามันสามารถ เลียนแบบหรือรบกวนการทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ
หากได้รับสารนี้ในปริมาณต่ำแต่ต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพเรื้อรัง เช่น
สารสไตรีนสามารถละลายเข้าสู่อาหารได้เมื่อสัมผัสกับอุณหภูมิสูง ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ต้องระวัง โดยเฉพาะ
อาหารที่มีลักษณะดังต่อไปนี้มีแนวโน้ม ดูดซับสารสไตรีนจากกล่องโฟม มากขึ้น
งานวิจัยจาก Food and Chemical Toxicology พบว่า การใช้กล่องโฟมบรรจุอาหารร้อนเป็นเวลา 30 นาที ทำให้ปริมาณสารสไตรีนที่ปนเปื้อนในอาหารสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในอาหารประเภทน้ำซุปและของทอด
หากจำเป็นต้องอุ่นอาหาร ควรใช้ภาชนะที่ปลอดภัยต่อไมโครเวฟ เช่น
กล่องโฟมเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอุตสาหกรรมอาหาร เนื่องจากต้นทุนต่ำและคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อนที่ดี อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากกล่องโฟมนั้นร้ายแรงและยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่มีการจัดการขยะที่เหมาะสม
กล่องโฟมผลิตจาก โพลิสไตรีน (Polystyrene , PS) ซึ่งเป็นพลาสติกที่ใช้เวลาย่อยสลายนานถึง 500 – 1,000 ปี ในสภาวะธรรมชาติ แตกต่างจากวัสดุธรรมชาติ เช่น กระดาษ หรือไบโอพลาสติก ที่สามารถย่อยสลายได้ในไม่กี่เดือน
การสะสมของขยะโฟมในพื้นที่เปิดโล่ง
อันตรายจากการเผาโฟมและสารพิษที่ปล่อยออกมา
ขยะโฟมที่ถูกทิ้งอย่างไม่เหมาะสมสามารถ ซึมซับสารเคมีและโลหะหนัก และปล่อยสารพิษลงสู่ดินและแหล่งน้ำได้
โฟมทำให้ดินเสื่อมโทรมและลดความอุดมสมบูรณ์ของดิน
มลพิษในแม่น้ำและทะเลจากขยะโฟม
เมื่อกล่องโฟมแตกตัวเป็นชิ้นเล็ก ๆ จากแสงแดดและแรงกระแทก มันจะกลายเป็นไมโครพลาสติก (Microplastics) ที่มีขนาดเล็กกว่า 5 มม.
ผลกระทบของไมโครพลาสติกต่อสิ่งแวดล้อม
ผลกระทบของไมโครพลาสติกต่อสุขภาพมนุษย์
หลายประเทศออกมาตรการ ห้ามใช้กล่องโฟม เช่น
ประเทศไทยยังไม่มีการ ห้ามใช้กล่องโฟม 100% แต่มีมาตรการควบคุม เช่น
ปัจจุบัน ประเทศไทยผลิตขยะพลาสติกและโฟมกว่า 2 ล้านตันต่อปี และมีเพียง 25% เท่านั้นที่ถูกนำไปรีไซเคิล
แนวโน้มการห้ามใช้กล่องโฟมในไทย
โครงการลดการใช้โฟมของภาครัฐและเอกชน
การลดผลกระทบของกล่องโฟมจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล ภาคเอกชน และประชาชน
วิธีที่ภาครัฐสามารถทำได้
ทางเลือกสำหรับภาคธุรกิจ
สิ่งที่ประชาชนสามารถทำได้
ประเภท | คุณสมบัติ | จุดเด่น |
บรรจุภัณฑ์กระดาษ | ย่อยสลายง่าย แต่ต้องเคลือบกันน้ำ | เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม |
พลาสติกชีวภาพ (Bioplastic) | ทำจากพืช เช่น ข้าวโพด | ย่อยสลายได้ในธรรมชาติ |
กล่องแก้ว / สแตนเลส | ใช้ซ้ำได้ ทนความร้อนสูง | ปลอดภัยต่อสุขภาพ |
อ่านเพิ่มเติม : 5 บรรจุภัณฑ์อาหารปลอดภัยที่ร้านอาหารควรใช้แทนกล่องโฟม (แนะนำตัวเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและผ่านมาตรฐานความปลอดภัย)
กล่องโฟมเป็นภัยต่อทั้งสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากมีสารสไตรีนที่อาจเป็นสารก่อมะเร็งและใช้เวลาย่อยสลายยาวนานกว่าหลายร้อยปี ทำให้เกิดมลพิษทางดิน แหล่งน้ำ และส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อาหารของมนุษย์ การลดใช้โฟมและเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัย เช่น บรรจุภัณฑ์กระดาษ ไบโอพลาสติก หรือภาชนะที่ใช้ซ้ำได้ เป็นทางเลือกที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ถึงเวลาที่เราต้องเปลี่ยนพฤติกรรมในการเลือกบรรจุภัณฑ์ เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเองและโลกของเรา