ผลกระทบของการบริโภคน้ำตาลที่มีผลต่อโรคเบาหวานในวัยรุ่น
เรียนรู้ผลกระทบของการบริโภคน้ำตาลที่สูง ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในวัยรุ่น พร้อมวิธีป้องกันและคำแนะนำเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น
5 สัญญาณเตือน! ลูกน้อยเสี่ยงเป็นเบาหวาน พ่อแม่ต้องรู้ไว้ โรคเบาหวานในเด็กมาแบบเงียบๆ แต่ส่งสัญญาณเตือนให้เห็น ถ้าสังเกตพบอาการเริ่มต้นเหล่านี้ พ่อแม่ต้องรีบพาลูกไปหาหมอด่วน! คลิกอ่านวิธีสังเกตง่ายๆ ที่พ่อแม่ทุกคนควรรู้
โรคเบาหวานในเด็ก ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะปัจจุบันเด็กไทยป่วยเป็นโรคนี้มากขึ้นเรื่อยๆ น่ากลัวใช่ไหมล่ะ? แต่ถ้าพ่อแม่หมั่นสังเกตอาการเริ่มต้นของโรคเบาหวานในเด็ก ก็จะช่วยจับสัญญาณเตือนได้ไม่ยาก วันนี้เรามี 5 อาการสำคัญที่บ่งบอกว่าลูกน้อยอาจมีความเสี่ยง มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง แล้วเราจะรับมือกับมันได้ยังไง Let’s go!
1.ดื่มน้ำและปัสสาวะบ่อยผิดปกติ
- เด็กที่เป็นเบาหวานจะมีอาการกระหายน้ำบ่อย เพราะร่างกายต้องการขับน้ำตาลส่วนเกินออกมาทางปัสสาวะ
- ลูกอาจจะดื่มน้ำเยอะถึงวันละหลายๆ ขวด หรือฉี่บ่อยขึ้นจนผิดสังเกต
- บางคนอาจจะต้องตื่นมาเข้าห้องน้ำกลางดึกหลายรอบ หรือฉี่ราดที่นอนโดยไม่รู้ตัว
ตัวอย่างเช่น น้องมีนาดื่มน้ำวันละ 5-6 ขวดใหญ่ จากปกติแค่ 1-2 ขวด และต้องวิ่งเข้าห้องน้ำชั่วโมงละ 2-3 รอบ คุณแม่จึงพาไปหาหมอ ก็พบว่าน้องมีนาเป็นเบาหวานนั่นเอง
2.น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งที่กินเยอะ
- เด็กเบาหวานมักจะผอมลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งที่ทานข้าวเยอะเหมือนเดิมหรือมากกว่าเดิม
- เพราะร่างกายดึงเอาไขมันและกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงานทดแทนน้ำตาล ทำให้น้ำหนักหายไปเยอะ
- หากลูกกินจุแต่ผอมโซผิดปกติ ควรรีบพาไปหาสาเหตุโดยเร็วที่สุด อย่าปล่อยไว้นะคะ
ตัวอย่างเช่น น้องชายวัย 10 ขวบ จู่ๆ ก็ผอมลงภายในเดือนเดียวถึง 5 กิโลกรัม จากที่หนัก 40 กก. เหลือ 35 กก. ทั้งที่กินข้าวมากกว่าเดิม คุณพ่อเลยพาไปตรวจ ปรากฏว่าน้องชายเป็นเบาหวานค่ะ
3.อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง
- ถ้าลูกน้อยดูเซื่องซึม ไม่ยอมวิ่งเล่นสักที ก็อย่าเพิ่งด่วนตำหนิว่าขี้เกียจนะคะ
- เพราะเด็กเป็นเบาหวานจะรู้สึกอ่อนแรง ไม่ค่อยมีแรง เนื่องจากร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปเป็นพลังงานได้
- หากสังเกตว่าลูกเหนื่อยง่าย ไม่ค่อยกระตือรือร้น ไม่อยากทำกิจกรรมผิดปกติ ก็ควรพาไปเช็กสุขภาพนะคะ
ตัวอย่างเช่น น้องแตงโมวัย 7 ขวบ แต่ก่อนซน ชอบวิ่งเล่น แต่ระยะหลังกลับไม่ยอมออกไปไหน อยากนอนอยู่แต่ในห้อง พอให้ไปเดินเล่นข้างนอกก็บ่นเหนื่อย คุณแม่สงสัยจึงพาไปตรวจ พบว่าน้องแตงโมเป็นเบาหวานและต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง
4.คันตามผิวหนังและอวัยวะเพศ
- เด็กผู้หญิงที่เป็นเบาหวาน เสี่ยงต่อการเกิดเชื้อราบริเวณช่องคลอดและอวัยวะเพศได้ง่าย
- เพราะน้ำตาลในปัสสาวะจะไปเป็นอาหารของเชื้อรา ทำให้เกิดอาการคัน ระคายเคือง
- หากลูกสาวมีอาการคันตามผิวหนังหรือบริเวณจุดซ่อนเร้นบ่อยๆ ควรสังเกตให้ดีและไม่ควรละเลยนะคะ
ตัวอย่างเช่น น้องการ์ตูนอายุ 9 ขวบ มักจะเกาตามขาหนีบและอวัยวะเพศเป็นประจำ พอคุณแม่สังเกตดูก็พบว่ามีผื่นแดงและมีตกขาวผิดปกติ พอพาไปหาหมอก็พบว่าน้องการ์ตูนเป็นเบาหวานและเป็นเชื้อราในช่องคลอดค่ะ
5.มีปัญหาการมองเห็น
- โรคเบาหวานอาจจะส่งผลกระทบต่อดวงตาในเด็กได้เช่นกัน ทำให้มองเห็นภาพไม่ชัดเจน
- เด็กอาจจะมีอาการตาพร่ามัว มองภาพไม่ค่อยเห็น หรือจอประสาทตาอักเสบได้
- ถ้าลูกชอบเอียงคอมองทีวี หรือบ่นว่ามองไม่ชัด อย่ามองข้ามและคิดว่าสายตาสั้นธรรมดานะคะ
- ให้รีบพาไปตรวจตาโดยเร็วที่สุด เพราะถ้าปล่อยไว้นานอาจจะส่งผลต่อการมองเห็นได้
ตัวอย่างเช่น น้องเจมส์วัย 11 ขวบ เริ่มสังเกตว่ามองกระดานหน้าห้องไม่ค่อยเห็น ต้องขยับเข้าไปใกล้ๆ และชอบเอามือขยี้ตาบ่อยๆ คุณพ่อจึงพาไปตรวจตา ปรากฏว่าน้องเจมส์จอประสาทตาอักเสบจากภาวะเบาหวานนั่นเอง
หากลูกน้อยมีอาการผิดปกติเหล่านี้ อย่ารอช้าที่จะพาไปพบแพทย์นะคะ ยิ่งตรวจพบเร็ว ก็จะยิ่งรักษาได้ทันท่วงที ป้องกันไม่ให้โรคลุกลามจนเกิดภาวะแทรกซ้อนในระยะยาวค่ะ แต่ที่สำคัญคือ พ่อแม่ต้องช่วยกันดูแลให้ลูกมีพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตที่ถูกต้อง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงของการเป็นเบาหวานด้วยนะคะ
สรุป
เห็นไหมคะว่าอาการเริ่มต้นของโรคเบาหวานในเด็กไม่ได้สังเกตยากเลย ขอแค่พ่อแม่ใส่ใจและเฝ้าระวัง หากเจอสัญญาณผิดปกติก็รีบปรึกษาแพทย์ อย่าปล่อยไว้นานจนลุกลาม เพราะยิ่งรักษาเร็ว ก็ยิ่งควบคุมโรคเบาหวานได้ดีและป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้มากขึ้น สุขภาพลูกรัก สำคัญที่สุดจริงไหมล่ะ?
ใครอยากอ่านเรื่องสุขภาพเด็กเพิ่มเติม แนะนำให้แวะไปที่ mancunianvintage.com นะคะ มีบทความดีๆ เกี่ยวกับการดูแลลูกน้อยเพียบ อัปเดตทุกสัปดาห์เลยล่ะ ไปตามอ่านกันได้เลย แล้วอย่าลืมนำความรู้ไปปรับใช้กับครอบครัวของเราด้วยนะ เพื่อลูกรักจะได้เติบโตอย่างแข็งแรง ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บทุกชนิดค่ะ
