รู้หรือไม่? Packaging ยุคใหม่ เป็นอย่างไรและไปถึงไหนกันแล้ว

ในปี 2024 นี้ โลกของเราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายในด้านต่างๆ และหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดคือในเรื่องของ “ Packaging ยุคใหม่ ” ที่ต้องพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการของผู้บริโภคและสภาวะของโลกในปัจจุบัน หากจะพูดถึงบรรจุภัณฑ์ในยุคนี้ มันต้องเป็นมากกว่าแค่ภาชนะสำหรับใส่สินค้า แต่ต้องเป็นบรรจุภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองและสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์, ความต้องการ และความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภคได้

การออกแบบบรรจุภัณฑ์ในปี 2024 จึงไม่เพียงแค่ต้องมองที่ความสวยงามและการดึงดูดสายตาเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงความสะดวกในการใช้งาน, ความปลอดภัย, และความสามารถในการเก็บรักษาสินค้าให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด นอกจากนี้ ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือ “Eco-Friendly Packaging” กลายเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสนใจและเลือกใช้มากขึ้น บรรจุภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายได้, รีไซเคิลได้ หรือผลิตจากวัสดุที่มีผลกระทบต่ำต่อสิ่งแวดล้อมจึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

มาดูกันว่า Packaging ยุคใหม่ ต้องเป็นอย่างไร เช่น

มาดูกันว่า Packaging ยุคใหม่ ต้องเป็นอย่างไร เช่น

1.ตอบโจทย์ฟังก์ชั่นการใช้งาน

แพคเกจจิ้งในยุคใหม่ต้องมีการออกแบบที่คำนึงถึงความสะดวกสบาย เช่น การออกแบบที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปิดหรือปิดบรรจุภัณฑ์ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้แรงมากหรือใช้อุปกรณ์เพิ่มเติม หรือความปลอดภัยในการใช้งาน ทั้งนี้ยังรวมถึง การใช้งานที่ง่ายและเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นขนาด, รูปทรง, หรือความต้องการพิเศษของสินค้านั้นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน

2.ตอบโจทย์ Branding

การออกแบบแพคเกจจิ้งที่ตอบโจทย์ “Branding” หรือการสร้างแบรนด์เป็นส่วนสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้ในธุรกิจยุคใหม่ เพราะบรรจุภัณฑ์ไม่เพียงแต่เป็นภาชนะสำหรับบรรจุสินค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นสื่อที่สำคัญในการสื่อสารคุณค่าและเอกลักษณ์ของแบรนด์กับผู้บริโภค

3.สร้างการจดจำ

การมีรูปแบบการออกแบบที่เฉพาะเจาะจงและไม่เหมือนใครเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์ได้ง่าย อาจรวมถึงการใช้โลโก้, สีสัน, รูปทรง, หรือลวดลายที่มีความโดดเด่น และยังรวมถึงการใช้บรรจุภัณฑ์เพื่อเล่าเรื่องราวของแบรนด์ อาจเป็นเรื่องราวที่แสดงถึงคุณค่า, ประวัติศาสตร์, หรือแนวคิดของแบรนด์ ช่วยให้ผู้บริโภคจดจำและเกิดความผูกพันกับแบรนด์ได้ง่ายขึ้น

4.ใส่ใจสิ่งแวดล้อม (Eco Friendly)

ความสำคัญของการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการออกแบบบรรจุภัณฑ์เป็นเรื่องที่ไม่สามารถมองข้ามได้ การใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้, รีไซเคิลได้, หรือมีผลกระทบต่ำต่อสิ่งแวดล้อมนั้นเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและเป็น “Eco premium” แม้ว่าอาจมีต้นทุนสูงกว่าพลาสติกแต่ก็สามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ได้

5.ยืดอายุ shelf life

การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถยืดอายุการเก็บรักษาสินค้าหรือ “Shelf Life” ได้นานขึ้นเป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญในการพัฒนาแพคเกจจิ้งยุคใหม่ และยิ่งหากมีการออกแบบแพคเกจจิ้งที่สามารถยืดอายุการเก็บรักษาสินค้าได้นานขึ้น เช่น บรรจุภัณฑ์อ่อนตัว (flexible packaging) ก็จะยิ่งทำให้มีประโยชน์ในหลายๆ ด้าน เช่น

  • การรักษาคุณภาพสินค้า: บรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อยืดอายุการเก็บรักษาสินค้าสามารถช่วยรักษาคุณภาพของสินค้าได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการป้องกันความชื้น, อากาศ, แสงแดด หรือแม้แต่การป้องกันการเสียหายจากการกระแทก
  • การขยายช่องทางการขายผ่าน E-Commerce: บรรจุภัณฑ์ที่ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาสินค้าเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับการขายสินค้าออนไลน์ เนื่องจากสินค้าต้องผ่านกระบวนการจัดส่งที่อาจใช้เวลาหลายวัน บรรจุภัณฑ์ที่ดีจะช่วยรักษาสภาพของสินค้าได้ดีในระหว่างการขนส่ง
  • การลดการสูญเสียของผู้ค้าและผู้ผลิต: การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ยืดอายุการเก็บรักษาได้นานช่วยลดปริมาณสินค้าที่เสียหายหรือหมดอายุก่อนที่จะถูกขายได้ ซึ่งนำไปสู่การลดการสูญเสียทั้งในด้านทรัพยากรและการเงิน

สรุป

แพคเกจจิ้งยุคใหม่ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือในการจัดเก็บหรือป้องกันสินค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของแบรนด์ และมีบทบาทสำคัญในการสื่อสารกับผู้บริโภค และการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ดีจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวสำหรับแบรนด์.